haw-logo
โรคทั่วไป

มารู้จักโรคกรดไหลย้อนกัน

create at posted on 13 Dec 2022 3 min read

โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเป็นโรคที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมาก หากไม่ได้รับการรักษาอาจสร้างความรำคาญ และความกังวล และหากมีอาการและไม่ได้รับการรักษาหรือตรวจอย่างเหมาะสมอาจบดบังภาวะอื่นที่อันตรายต่อชีวิตได้ การรักษาโรคกรดไหลย้อน มีทั้งการรักษาด้วยยา และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสการเกิดภาวะกรดไหลย้อน และหากจำเป็น อาจมีการตรวจเพิ่มเติมในรูปแบบอื่นร่วม เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร หากแพทย์สงสัยภาวะอื่นที่เกิดร่วมกับโรคนี้

โรคกรดไหลย้อนเกิดได้อย่างไร?

โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่อาหาร น้ำย่อย หรือแก๊สจากกระเพาะอาหารไหลกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร การไหลย้อนทำให้เกิดการระคายเคืองของหลอดอาหาร หรือทางเดินหายใจส่วนบน ในคนทั่วไปอาจมีลักษณะของอาการนี้ได้นาน ๆ ครั้ง แต่หากเป็นบ่อย จะจัดว่าเป็นภาวะกรดไหลย้อน

ลักษณะอาการ

อาการที่มักเกิดขึ้น ได้แก่ อาการแสบยอดอก แน่นหรือเจ็บบริเวณหน้าอกหรือลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว จุกแน่น หรือมีรู้สึกก้อนอาหารค้างในคอ ในบางรายที่อาการรุนแรงจะมีอาการกลืนเจ็บ อาการอื่น ๆ ที่เกิดได้จากกรดไหลย้อนมานอกหลอดอาหาร ได้แก่ อาการไอ เสียงแหบจากกล่องเสียงอักเสบ หรือหอบหืดกำเริบบ่อยครั้ง

สาเหตุ

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรค

  • อาหารบางชนิด ทำให้เกิดอาการได้มากขึ้น เช่น กาแฟ ชอคโกแลต อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด น้ำอัดลม อาหารที่มีส่วนประกอบของมะเขือเทศ อาหารประเภทผักที่มีกลิ่นฉุน เช่น หัวหอม กระเทียม มิ้นท์
  • การรับประทานอาหารมาก ๆ ในหนึ่งมื้อ
  • การนอนหลังรับประทานอาหารทันที
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • เกิดแรงดันในช่องท้อง เช่น การสวมเสื้อผ้ารัดแน่น การตั้งครรภ์

วิธีการรักษา

ยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร

  • Omeprazole (20 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 - 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า - เย็น
  • Lansoprazole (30 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า

ยาเพิ่มการบีบตัวของทางเดินอาหาร ลดอาการคลื่นไส้

  • Domperidone (10 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 - 3 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น เวลามีอาการ

ยาลดอาการปวดเกร็งช่องท้อง

  • Hyoscine (10 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 - 3 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น เวลามีอาการ

ยาขับลม ลดอาการอืดแน่นท้อง

  • Air-X (Simethicone 80 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 - 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น เวลามีอาการ
  • ยาน้ำตรากระต่ายบิน รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 - 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น เวลามีอาการ

ยาบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร และขับลม

  • Kremil รับประทานครั้งละ 2 - 4 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง ขณะท้องว่างหรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง

ยาขับลม ลดอาการอืดแน่นท้อง

  • Antacil Gel รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 - 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น เวลามีอาการ
  • Gaviscon Advance Liquid รับประทานครั้งละ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 - 4 ครั้ง หลังอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น - ก่อนนอน เวลามีอาการ
  • Gaviscon Liquid Sachet Mint รับประทานครั้งละ 1 - 2 ซอง (10 - 20 ml) ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน

การปฏิบัติตัว

วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นกรดไหลย้อน

  • หากมีน้ำหนักเกิน ควรลดน้ำหนัก
  • ไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • ปรับหรือหนุนหัวให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้วฟุต
  • นอนในท่าตะแคงซ้าย
  • ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือรัดเข็มขัดแน่นจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปริมาณมากในแต่ละมื้อ ควรรับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้มีอาการ ได้แก่
    • รสเผ็ด
    • เครื่องดื่มคาเฟอีนเช่น ชา กาแฟ
    • อาหารที่เป็นกรด เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม อาหารรสเปรี้ยวจัด
    • อาหารไขมันสูง เช่น ของทอด ช็อคโกแลต
    • อาหารที่ทำให้เกิด Gas เช่น กระเทียม หัวหอม
    • Mint เช่น สะระแหน่ หมากฝรั่งเปปเปอร์มินท์
  • หลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่ทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร เช่น ยาลดการอักเสบกลุ่ม NSAIDs (เช่น ไดโคลฟีแนค ไอบูโพรเฟน)
  • งดบุหรี่
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์

อาการที่ถือว่าผิดปกติ และควรได้รับการตรวจรักษาเพิ่มเติม

  • มีอาการกลืนเจ็บ กลืนลำบาก กลืนติดหรือสำลัก
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อาเจียนบ่อย อาเจียนเป็นเลือด
  • มีภาวะ ซีด ถ่ายดำหรือถ่ายเข้ม
  • มีอาการปวดท้องรุนแรง
Tags :
นพ. อัศวิน โรจนสุมาพงศ์ คุณหมอวิน เป็นคุณหมอเวชศาสตร์ครอบครัว ก่อนหน้านี้เคยเป็นอาจารย์แพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่